พระสมเด็จวัดระฆัง-สำนักกฎหมาย
เข้าสู่ระบบ - สมัครสมาชิก
2พระอุปคุต
นกฟีนิกซ์
คำทำนายโลก
อหิวาตกโรค
ตู้จดหมาย9pha
ต่างชาติกับพระสมเด็จ
5พญาครุฑ
8คำกล่าวนำ
9ประวัติความเป็นมา
10ประวัติสมเด็จโต
127วังหน้า,วังหลัง,กรมท่า
11ห้องกาแฟใหญ่
ห้องหนังสือ
อ่านหนังสือผ่านมือถิอ
128เนื้อ..แป้งข้าวเหนียว
129องค์...ธนบดี
130เนื้อโกเด2ยุค
131พระสมเด็จย้อนยุค
132ต่างครกต่างมวลสาร
133ทรายแก้ว
ห้อง..ศิลปะพระสมเด็จ
12ห้องช่าง
134รู้หน้า...ไม่รู้ใจ
135กรอบพระโบราณ
136เส้นขนมจีน.หวายผ่าซีก
137องค์พระ....คะแนน
138พระแท้..พิมพ์แปลกตา
139องค์สังฆาฎิ
140เนื้อเปลือยปูนสุกดิบ
14ห้องคลังปัญญา
15คู่มือ..นักสะสม
13ห้องสมุด
16ห้องพระเก๊๊
17ห้องเปรียบมวย
18หายาก.....มีน้อย
19พระใหม่ลายเดิม
15ห้องพระเกศ
20องค์พระ...กรอบกระด้ง
21องค์สอง...หน้า
22องค์บาง.......ที่สุด
23องค์หนา...ที่สุด
24รวมรัก
25ห้องแป้ง,ห้องเนื้อพระ
26เส้นกรอบ....ครอบแก้ว
27ห้องความเก่าไม่ถึง
28ห้องมวลสารหลักพระสมเด็จ
29ด้านหลังพระสมเด็จ
30หลังเรียบ
31ขอบข้างพิมพ์นิยม
32สมเด็จวัดพระธาตุพนม
33พระสมเด็จวัดเกศไชโย
34พระสมเด็จวัดบางขุนพรหม
35ห้องพระสองคลอง
ห้องพระสมเด็จหลังเหรียญ
36วิวัฒนาการงานพระปูนปั้น
37พระสมเด็จรุ่นสุดท้าย
38ห้องสร้างชื่อเสียง
พระสมเด็จราคา 2 ล้าน
พระสมเด็จราคา 6 ล้าน
พระสมเด็จราคา 10 ล้าน
พระสมเด็จราคา 20 ล้าน
พระสมเด็จราคา 50 ล้าน
พระสมเด็จ 100 ล้าน
พระสมเด็จ 500 ล้าน
39ห้องพระล้ำค่าระดับเพชร
40พระสมเด็จราคาสูง
ประชาสัมพันธ์
จำนวนสมาชิก
41แบบพิมพ์ก่อนพิมพ์นิยม
ธนาคารพระสมเด็จ
เล่าเรื่องปฎิหารพระสมเด็จ
ห้องพระสมาชิก
ร้านค้า/ตู้พระสมาชิก
ห้องพระแลกพระสมาชิก
บอกบุญ
ข่าวสารงานประกวดพระ
43ห้องสนิมกระป๋อง
44ห้อง 5 ขาว
45ห้อง 4 ดำ
46ห้อง 3 แดง
15ห้องตำนาน
49ห้องเนื้อปูนขาดธรรมชาติ
50ดิน,ปูน.แป้ง,เปลือกหอย
ห้อง..9pha.net
ข่าวทุกสำนัก
sms..ผ่านมือถือบาทเดียว
เครื่องเตือนแผ่นดินไหว
ห้องบัญชี
51ห้องพระสมเด็จก้อน
53พิมพ์เส้นด้าย วัดระฆัง
ห้องสมเด็จ9พระ
54ทองเก่า-ทองใหม่
55สี่เหลี่ยมชิ้นฟัก
56สมเด็จยายจันทร์
58พระสมเด็จปูนปอตแลนด์
60วังหน้าvsวัดระฆัง
62กรมท่าvsวัดระฆัง
ครบล้านแล้วจร้า
63กรมท่าvsพระสองคลอง
65เนื้อปูนขาวปิดทองลงชาด
66เนื้อผงใบลานเผา
ศูนย์พระของสมาชิก
ศูนย์คอมพิวเตอร์พันธ์ทิพย
สนามประกวดพระสมาชิก
15ลักษณะทางกายวิภาค
เนื้อดินสอเหลือง
67กลิ่นหมาก
68กรอบหัวนิ้วมือ
69หลังลายดอกพิกุล
15ใครปั้น ใครกด
ห้องคนเล่าเรื่อง
72องค์งาช้าง
73กดไม่เต็มพิมพ์
นั่งขัดสมาธิ
74ห้องเนื้อผสม
75พระสมเด็จลุงแฉล้ม
76พระสมเด็จเนื้อดิน
77เนื้อกล้วย,ขนุนเปื่อย
78แร่ธาตุอัญมณี
79ปูนตายซาก
80เนื้อว่านมงคล108
82เนื้อข้าวหอม
83ทรายเงิน-ทรายทอง
ยาผีบอก...
84สารเคลือบผิวแตกลาน
85สมเด็จยายขำ
วันแห่งความรัก
3.9G
หนึ่งในสยาม
ห้องtv9pha
87องค์เล็ก2วัด
แจกพระผงสุพรรณ
88พื้นนาแตกระแหง
89แตกลายหนังจระเข้
90ปูนเพชร
91อกครุฑเศียรบาตร
92องค์ใบเสมา
93ปรกโพธิ์เลื้อย
94มวลสารก้อนสีฟ้าอมเขียว
95ชื่อฉายา
96แขนหักศอกพิมพ์ครูเอื้อ
97เนื้อน้ำมัน
98เปลือกไม้มงคล
99ดินพอกช้างเผือก
100คราบไคร่ใบเสมา
101มวลสารพระธาตุ
102มวลสารขนมกระยาสารท
103พระสมเด็จ2วัด
ออกกำลังกายรักษาโรค
104มวลสารเหล็กไหล
105อวดธรรมชาติกาลเวลา
106เอวลอย
107อกกระบอก
108กาลเวลาพระเนื้อดิน
109รอยแยกแตกปรี
110ไปเที่ยววัดเกศไชโย
111ตามหาทรงกรวย
112เนื้อพระปูนปั้นย้อนยุด
ความสมดุลเกิดความสมบูรณ์
113ไม้ไก่กุ๊ก
114มวลสารหยกเขียวกวนอู
115ก้อนขาวกับกาลเวลา
116ห้องหินเทา
117แตกลายไข่นกปรอท
118ก้อนขาว,พระอรหันต์ธาตุ
119รักลอกทองล่อน
120เนื้อเก่า,เนื้อใหม่
มหัศจรรย์แห่งตัวเลข
121รอยสางหวี หรือเสนียด
พื้นผิวไม่เรียบ
พระสมเด็จคณะ9วัดระฆัง
เล่าเรื่องสมเด็จโต
พระสมเด็จกรุวัดกัลยาณมิตร
ตรวจคาร์บอน14
เปิดกรุหลวงวิจารย์
พิมพ์ฐานคู่
1พระสีวลี
ร้านให้เช่า9pha
ตามข่าวเสี่ยวิชัย
Main webboard
»
เล่าเรื่องอภินิหารสมเด็จโต
ย้อนกลับ
|
ตั้งกระทู้ใหม่
Started by
Topic:
เรื่องสมเด็จโต ตอน 9 (Read: 2582 times - Reply: 0 comments)
nokninja
Posts: 311 topics
Joined: 18/4/2552
เรื่องสมเด็จโต ตอน 9
« Thread Started on 4/2/2553 21:32:00 IP : 125.24.227.245 »
อ้างถึง
ครั้งนั้นเจ้าพระยาจักรี ตั้งทัพอยู่ ณ เมืองกำแพงเพชร เวลาเช้าวันหนึ่งออกลาดตระเวนกองทัพทั้งปวงเพื่อบัญชาการ และชักม้าวกลัดเพื่อตัดทาง ม้าก็เลยพาท่านเข้าป่าฝ่าพงจำเพาะมายังบ้านปลายนาใต้เมืองกำแพงเพชร เป็นเวลาเย็น จึงแลเห็นโรงหนึ่งตั้งอยู่ปลายทุ่งนา เจ้าคุณแม่ทัพผู้นั้นจึงได้ชักม้าไปถึงโรงนั้นไม่เห็นมีคนผู้ใหญ่อยู่ได้ เห็นแต่หญิงสาวตนหนึ่งเดินออกมา เจ้าคุณแม่ทัพผู้นั้นจึงบอกแก่นางสาวคนนั้นว่า ข้ากระหายน้ำ เจ้าจงตักน้ำมาให้ข้ากินสักขันเถิด นางสาวคนนั้นจึงวิ่งด่วนเข้าไปในห้อง หยิบได้ขันล้างหน้าใบหนึ่งแล้วจ้วงตักน้ำในหม้อกลั่น แล้วล้วงไปหักดอกบัวหลวงในหนองน้อยข้างโรงนั่นสองสามดอก แล้วฉีกกลีบเด็ดเอาแต่เกสรบัวโรยลงไปในขันน้ำนั้นจนเต็ม แล้วนำส่งให้บนหลังม้า เจ้าคุณทัพรับเอามาเป่าเกสรเพื่อแหวกหาช่องน้ำแล้วต้องเอาริมฝีปากเบื้องบน เม้มเกสรไว้ แล้วดูดดื่มน้ำจนหมดขันด้วยอยากกระหายน้ำ ครั้นดื่มน้ำหมดแล้ว เจ้าคุณแม่ทัพจึงถามนางสาวคนนั้นว่า เราอยากกระหายน้ำสู้อุตสาห์บากหน้ามาขอน้ำเจ้ากิน เหตุไฉนจึงแกล้งเราเอาเกสรบัวโรยลงส่งให้เรากินน้ำของเจ้าลำบากนัก เจ้าแกล้งทำเล่นแก่เราหรือ
นางสาวคนนั้นตอบว่า "ดิฉันจะได้คิดแกล้งท่านนั้นก็หาไม่ ที่ดิฉันเอาเกสรบัวโรยลงในขันน้ำให้เต็มนั้น เพราะดิฉันเห็นว่า ผากแดดแผดลมเหนื่อยมา และกระหายน้ำด้วย ก็เพื่อป้องกันเสียซึ่งอันตรายแห่งท่าน เพื่อจะกันสำลักน้ำและสะอึกน้ำ และกันจุกแน่นแห่งท่านผู้ดื่มน้ำของดิฉัน ถ้าท่านไม่มีอันตรายในการดื่มน้ำแล้ว น้ำจะได้ทำประโยชน์แก้กระหายแห่งท่าน ดิฉันจะพลอยได้ประโยชน์เพราะให้น้ำแก่ท่าน ท่านสมปรารถนาแล้วก็จะเป็นบุญแก่ดิฉัน เหตุนี้ดิฉันจึงโรยเกษร" เจ้าคุณแม่ทัพฟังคำนางสาวตอบอย่างไพเราะอ่อนหวาน ถ้อยคำที่ให้การมานั้นก็พอฟัง จึงลงมาจากหลังม้าแล้วถามว่า "ตัวของเจ้าก็เป็นสาวเต็มเนื้อแล้ว มีใครๆมาหมั้นหมายผูกสมัครรักใคร่เจ้าบ้างหรือยัง" นางสาวบอกว่า "ยังไม่เห็นมีใครๆ มารักใคร่หมั้นหมายดิฉัน และดิฉันก็ยังไม่ได้ไปเที่ยวบอกใครว่าเป็นสาว มัวแต่หลบซ่อนตัวอยู่ ด้วยบ้านเมืองเกิดยุ่งนุ่งถุงมานานจนกาลบัดนี้ จึงมิได้มีใครเห็นว่าดิฉันเป็นสาว" เจ้าคุณทัพว่า "ถ้ากระนั้นเราเองเป็นผู้ที่ได้มกเห็นเจ้าเป็นสาวก่อนคน เจ้าต้องยอมตกลงเป็นคู่รักของเรา เราจะต้องเป็นคู่ร่วมรักของเจ้าสืบไป เจ้าจะพร้อมใจยินยอมเป็นคู้รักของเราโดยสุจริตหรือว่าประการใด"
นาง สาวตอบว่า "การที่ท่านจะมาเป็นคู่รักของดิฉันนั้น ก็เป็นพระเดชพระคุณยิ่งอยู่แล้ว แต่ทว่าการจะมีผัวมีเมียกันตามประเพณีนั้น ดิฉันไม่ทราบเรื่อง จะว่าประการใดแก่ท่านก็ไม่มีอะไรจะว่า เรื่องการผัวการเมียนั้น ท่านต้องเจรจากับผู้ใหญ่ขึงจะทราบการ" เจ้าคุณแม่ทัพถามว่า "ผู้ใหญ่ของเจ้าไปไหน" นางสาวตอบว่า "ไปรดน้ำถั่วจวนจะกลับแล้ว" เจ้าคุณแม่ทัพขยับเดินเข้าให้ใกล้ นางสาวไพล่วิ่งปรู๋ออกแอบที่หลังโรงเลยไม่เข้าหา ท่านเจ้าคุณแม่ทัพก็ต้องนั่งเฝ้าโรงคอยท่าบิดามารดาของนางสาวต่อไป จนเกือบตะวันตกดินจวนค่ำ
ฝ่ายตาผล ยายลา กลับมาถึงโรงแล้ว เจ้าคุณแม่ทัพได้เห็นแล้ว จึงยกมือขึ้นไหว้ตายายก็น้อมตัวก้มลงไหว้ตอบ ท่านเจ้าคุณแม่ทัพก็ก้มลงไหว้ให้ต่ำลงไปอีก ตายายก็หมอบลงไปไหว้อีก ท่านเจ้าคุณแม่ทัพก็หมอบไว้อยู่อย่างนั้น ต่างคนต่างหมอยตัวกันอยู่นั่น ทั้งสองฝ่าย ฝ่ายยายแกเป็นคนปากเร็ว แกนึกขันและประหลาดใจแกจึงเปิดปากถามออกไปก่อนว่า "นี่เป็นขุนนางมาแต่บางน้ำบางกอก เหตุไฉนจึงมาหมอบกราบไหว้ข้าเจ้า เป็นชาวบ้านนอกเป็นชาวทุ่งชาวป่า เป็นคนยากจน ท่านจะมาหมอบไหว้ข้าเจ้าทำไม" เจ้าคุณแม่ทัพบอกว่า "ฉันมาสมัครเข้ามาเป็นลูกเขยท่านทั้งสอง จ้ะข้ะ"
ยาย ถามว่า "ท่านเห็นดีงามอย่างไร เห็นลูกสาวฉันเป็นอย่างไร ท่านจึงจะมายอมตัวเป็นลูกเขยเล่า" เจ้าคุณแม่ทัพว่า "ฉันเห็นบุตรสาวท่านดีแล้ว พอใจแล้ว จึงเข้ามาอ่อนน้อมยอมตัวเป็นลูกเขยท่าน" ท่านเจ้าคุณแม่ทัพเล่าถึงกาลแรกมาขอน้ำและนางเอาเกสรบัวโรยลงและได้ต่อว่า นางได้โต้ตอบถ้อยคำน่าฟังน่านับถือ จึงทำให้เกิดความรักปราณีขึ้น และตั้งใจจะเลี้ยงดูจริงๆ จึงต้องทนอยู่คอยท่า เพื่อจะแสดงความเคารพและขอเป็นเขย ขอให้แม่พ่อมีเมตตากรุณาเห็นแก่ไมตรีที่ได้มาอ่อนน้อมพูดจาโดยเต็มใจจริงๆ ตามวาจาที่ว่ามานี้ทุกอย่าง "ขอพ่อแม่ได้โปรดอนุญาตยกนางสาวลูกนั้นให้เป็นสิทธิ์แก่ฉันในวันนี้" ยายตาแกร้องขึ้นด้วยความตกใจว่า "โอตายจริง ข้าเจ้าเป็นคนยากจนข่นแค้นและต่ำศักดิ์ ทั้งผ้าผ่อนที่หลับที่นอนก็เหม็นตืดเหม็นสาบ ทั้งเครื่องเย่าเครื่องเรือนก็ขัดขวาง ทั้งถ้วยชามรามไหทีดีงามก็ไม่มี ฉิบหายป่นปี้แต่ครั้นบ้านเมืองเกิดยุ่งนุงนังหลายครั้งหลายครามาแลตัวนางหนู เล่าก็ยังไม่เป็นภาษา ทั้งจริตกิริยาก็ยังป่าเถื่อน ไม่เหมือนชาวใต้ จะใฝ่สูงเกินศักดิ์เกินสมควรไปละกระมังพ่อคุณ"
เจ้า คุณแม่ทัพว่า "ข้อนั้นพ่อแม่อย่ามีความวิตกหวาดกลัวอะไรเลย ข้อสำคัญก็คือ แม่พ่อยกให้เป็นกรรมสิทธิ์แก่ฉันเด็ดขาดแล้ว ต่อไปเป็นหน้าที่ของฉันฝ่ายเดียว ตามที่แม่พ่อยกขึ้นเป็นทางปรารมภ์นั้น เป็นธุระของฉันหมดทุกอย่าง ขอแต่ว่าอย่าเกี่ยงงอนขัดขวางดิฉันเลย"
ยาย ลา ตาผล ขอทุเลาถามเจ้าตัวว่า "มันอยากมีผัวหรืออย่างไรไม่ทราบ" แล้วก็ออกไปตามหาที่หลังโรง ตายายพูดกับลูกสาว ลูกสาวพูดกับพ่อกับแม่ได้ยินแต่กระจู๋กระจี๋กระเส่าๆ กระซิบกระซาบอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็กลับมา แล้วนั่งลงถามว่า "ในเวลานี้ท่านก็มาแต่ตัวกับม้าตัวหนึ่ง ถ้าหากว่าดิฉันทั้งสองพร้อมใจยกอีงุดลูกสาวฉันให้เป็นเมียท่าน ท่านจะจัดการประการใดแก่ดิฉันเพื่อให้เป็นมงคล จงว่าให้ดิฉันฟังก่อนเถิดเจ้าข้ะ"
เจ้าคุณแม่ทัพ ถอดแหวนออกจากนิ้วแล้วบอกว่า "แหวนวงนี้มีราคาสูง ถ้าว่าท่านบิดามารดายินยอมพร้อมใจ ยกแม่งุดให้เป็นเมียเป็นสิทธิ์แก่ฉันแล้ว ฉันจะยกแหวนวงนี้ ตีราคาทำสัญญาให้ไว้เป็นสินถ่าย ๒๐ ชั่ง คิดเป็นทุนเป็นค่าของหมั้นขันหมากผ้าไหว้อยู่ใน ๒๐ ชั่ง ทั้งค่าเครื่องเย่าเครื่องเรือนเบี้ยเลี้ยงค่าเลี้ยงค่าดู ค่าเครื่องเส้นวักตั๊กแตนเสร็จในราคา ๒๐ ชั่ง ด้วยแหวนวงนี้" สองตายายได้ฟังดีใจ เต็มใจ พร้อมใจ ตกลงยกลูกสาวให้ตามปรารถนา เจ้าคุณแม่ทัพก็จัดแจงยืมพานปากกระจับทองเหลืองมาแล้วเขียนสัญญาถ่ายแหวน แล้วเอาใบตองรองก้นพานแล้ววางแหวนที่ว่านั้นลงบนใบตองรองในพาน เชิญเข้าไปคุกเข่าส่งให้ตายายๆ ก็ให้ศีลให้พร เป็นต้นว่า ขอให้พ่อมีความเจริญด้วยลาภยศ ให้เป็นเจ้าคนนายคนเถิด แล้วจัดแจงหุงข้าว ต้มแกง พล่ายำ ตำน้ำพริก ต้มผัก เผาปลา เทียบสำรับตามป่าๆ แล้วเชิญให้อาบน้ำทาดินสีพอง ยายตาก็อาบน้ำ ลูกสาวก็อาบน้ำ ตาตักน้ำให้ม้ากิน พาไปเลี้ยงให้กินหญ้า ครั้นเจ้าคุณแม่ทัพอาบน้ำทาดินสีพองแล้ว ลูกสาวทาขมิ้นแล้ว ยายก็ยกสำรับปูเสื่อลำแพน แล้วเอาผ้าขาวม้าปูบนเสื่อลำแพน ยายเชิญเจ้าคุณแม่ทัพให้รับประทานอาหาร
ยายตาก็ รับประทานพร้อมกัน นางงุดนั้นให้กินภายหลัง ครั้นรับประทานอาหารแล้วต่างคนนั่งสั่งสนทนากัน ครั้นเวลา ๔ ทุ่ม จึงพาลูกสาวออกมารดนำรดท่า เสร็จแล้วก็ส่งมอบหมายฝากฝังตามธรรมเนียมของชาวเมืองกำแพงเพชรอันเคยทำพิธี มาแต่ก่อน
ส่วนเจ้าคุณแม่ทัพรับตัวแล้ว ก็หลับนอนอยู่ด้วยนางงุดในกระท่อมโรงนาจนรุ่งสางสว่างฟ้าแล้ว ตื่นขึ้นอาบน้ำ รับประทานอาหารแล้วก็ลาตายายขึ้นม้ามาบัญชาการที่กองทัพ พอเวลาค่ำสั่งการเสร็จสรรพแล้ว ห่อเงิน ๒๐ ชั่งมาสู่โรงบ้านปลายนาถ่ายแหวนคืนสัญญาแล้วก็หลับนอน เช้ากลับค่ำไป เป็นนิยมมาดังนี้ แม่ทัพนายกองทั้งปวงจะได้ล่วงรู้และร่ำลือให้อื้อฉาวก็เป็นอันว่าหามิได้ แต่บุตรชายของเจ้าคุณแม่ทัพซึ่งนอนอยู่ในค่ายมีอายุ ๘ ขวบโดยปี จะรู้ก็เข้าใจว่าไปดูแลตรวจตราบัญชาการ แต่เป็นดังนี้นานประมาณเดือนเศษ ตามสังเกตรู้ว่านางงุดตั้งครรภ์ ต่อแต่นั้นก็เพียงแต่ไปมาถามข่าว
ครั้น มีท้องตราหากองทัพกลับ เจ้าคุณแม่ทัพก็ไปล่ำลาและสั่งสอนกำชับกำชาโดยนานับประการ จนนางเข้าใจราชการตลอดรับคำทุกประมาร แล้วท่านก็คุมทัพกลับกรุงธนบุรี
Link to Post
-
Back to Top
กรุณาเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิกก่อนโพสข้อความค่ะ
»
คลิ๊กที่นี่
Main webboard
»
เล่าเรื่องอภินิหารสมเด็จโต
ย้อนกลับ
|
ตั้งกระทู้ใหม่
Online:
32
Visits:
16,777,220
Today:
6,970
PageView/Month:
125,517